สุดเวทนา! ด.ช.วัย 14 กับชีวิตที่ต้องถูกมัดมือตลอดชีวิต

ที่จังหวัด สุโขทัย พบเด็กชายวัย 14 ปี ป่วยเป็นโรคลมชักตั้งแต่อายุ 3 เดือน มารดาต้องจับมัดมือไว้ตลอดเวลา เพราะหากขยับได้เมื่อไหร่ก็ทำร้ายตัวเองทันที อีกทั้งจะสื่อสารด้วยการใช้หัวกระแทก ทำให้บริเวณศีรษะและใบหูทั้ง 2 ข้างเป็นแผลเรื้อรัง
วันที่ 23 ส.ค.57 ที่บ้านหลังหนึ่งใน ตำบลไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เป็นบ้านไม้สองชั้น พบ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ในสภาพถูกมัดมือไพล่หลัง ข้อมือบวมแดง จากการมัดที่แน่นอีกทั้งต้องมัดยึดกับต้นขากันเชือกหลุด ซึ่งชาวบ้านใกล้เคียงบอกว่าต้องมัดอย่างนี้เพราะหากขยับได้ ด.ช.เอ จะทำร้ายตัวเองทันที

มารดาของ ด.ช.เอ ล่าว่า ตอนลูกชายอายุได้ 3 เดือน เกิดอาการชักจนตัวงอ จึงพาไปพบแพทย์วินิจฉัยว่า เป็นโรคลมชัก ที่เป็นกรรมพันธุ์จากบิดาที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนลูกสาวอีกคน อายุ 22 ปี ก็เป็นโรคลมชักตอน 2 ขวบ จนล้มลงในกองไฟ มีบาดแผลที่แขนและเท้าซ้าย ปัจจุบันไม่พูดจากับใครนอกจากแม่ที่จะตอบสั้นๆ เพียงคำสองคำ แต่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อีกทั้งยังช่วยงานในครอบครัว เลี้ยงวัว เลี้ยงเป็ด ผ่าฟืนสุมไฟให้วัว รวมไปถึงช่วยดูแลน้องชายได้

ส่วนตัว ด.ช.เอ นั้นอยู่ในสภาพที่น่าเวทนา วันที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบพบทีมงานส่วนสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.ไกรใน ลงพื้นที่ดูแลพอดี สอบถามได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าที่ศีรษะและใบหู ทั้ง 2 ข้าง ของ ด.ช.เอ จะมีแผลเรื้อรังตลอดเพราะถึงแม้จะถูกมัดมือไว้ แต่ ด.ช.เอ จะสื่อสารด้วยการใช้หัวกระแทก เช่น หิวข้าว บางครั้งเห็นเสาบ้าน หรือ ต้นไม้ ก็จะเอาหัวไปกระแทก จนผิดรูปร่าง ซึ่งทางมารดาและเพื่อนบ้านต้องช่วยกันเอากระสอบมัดไว้เป็นการป้องกัน เพราะเคยกระแทกจนเลือดออกมาแล้ว ส่วนที่เท้ามีมีแผลที่รักษาไม่หายมานานกว่า 5 เดือนแล้ว เนื่องจาก ด.ช.เอ ชอบเดินไปเที่ยวเล่นในทุ่งนาโดยไม่ใส่รองเท้า บางครั้งก็เอาเท้าไปแกว่งน้ำเล่น และชอบยืนมองเหม่อไปตามทุ่งนาทั้งวัน ส่วนเวลากินข้าวก็จะมีแม่และพี่สาวคอยป้อน เวลานอนต้องนำมือมามัดพาดด้านข้าง และด้านหน้าแทนด้านหลัง

นาง นันทวัน เวสสบุตร หัวหน้าส่วนสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.ไกรใน กล่าวว่า ด.ช.เอ ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลกงไกรลาศ ส่วนตัวนั้นจะเวียนมาทำแผล ดูแลได้บางส่วน ซึ่ง ด.ช.เอ เป็นคนไข้ที่น่าสงสารมาก และอยากให้ได้รับการรักษาส่งต่อในระดับเฉพาะทางกว่านี้ เพราะตอนนี้เกินความสามารถของอนามัยส่วนของ อบต.ที่จะดูแลได้
ขณะที่ มารดาของ ด.ช.เอ กล่าวว่า ตนเองยอมรับโชคชะตา และอยู่ด้วยกัน 3 คนแม่ลูกแบบนี้ตามประสา แต่หากจะโชคดีมีหมอ มีคนใจบุญ ช่วยให้ลูกตัวเองไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน อยู่ได้โดยไม่ต้องถูกมัด ก็จะเป็นบุญของบุตรชายอย่างมาก ที่ปั้นปลายชีวิตยังมีคนอุปการะให้พ้นจากการพันธนาการตลอดไป

ที่มา: http://news.sanook.com/1654269/