(25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางกฤษณา อายุ 43 ปี พร้อมญาติ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อให้ตั้งกรรมการสอบสวนตำรวจ ป.ป.ส. ที่นำตัวบุตรชาย 2 คน คือ นายอรรถพล อายุ 23 ปี และนายเทวิน อายุ 19 ปี ไปสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุยิงสายข่าวเสียชีวิตหรือไม่ แต่เมื่อทั้ง 2 คนปฏิเสธ จึงถูกจับแยกห้อง โดยนายอรรถพล พี่ชาย ถูกรุมทำร้ายจนสลบ ส่วนน้องชายถูกทำร้ายอาการสาหัส และเสียชีวิตหลังจากที่นำตัวส่งโรงพยาบาล
นายอรรถพล เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา
ตนและนายเทวินน้องชาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกเที่ยวในตัวเมือง
ระหว่างทางกลับเข้าบ้าน ได้เห็นกลุ่มวัยวุ่นมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอยู่
โดยหนึ่งในนั้นมี นายเทวา ดาราโพธิ์ อายุ 23 ปี
ซึ่งเป็นสายของตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมอยู่ด้วย
แต่ตนและน้องชายไม่ได้สนใจและรีบกลับเข้าบ้าน
ภายหลังทราบว่า นายเทวา ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ต่อมาได้มีชายฉกรรจ์ 2 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ ถืออาวุธปืนสั้นและปืนยาวคนละกระบอก มาเคาะประตูบ้านเรียกให้ตนและน้องชายขึ้นรถไปที่หน่วยทำการชุดปราบปรามยาเสพ ติดจังหวัดฉะเชิงเทรา และได้แยกตัวตนกับน้องชายไปอยู่คนละห้อง โดยได้พยายามสอบสวนหาผู้ใช้อาวุธปืนยิง นายเทวา แต่ตนไม่รู้เรื่อง จึงถูกซ้อมและใช้ไม้กระบองตีที่บริเวณหลังและที่ศีรษะจนเป็นรอยเขียวซ้ำและ สลบไป
ญาติของผู้บาดเจ็บเปิดเผยว่า หลังหลานชายทั้ง 2 คนถูกนำตัวไป ตนก็ได้ไปตามหาที่โรงพักเมืองฉะเชิงเทรา แต่ก็ไม่พบตัว ภายหลังทราบว่าทั้งคู่ถูกเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดควบคุมตัวไป กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 24 ส.ค. จึงได้รับแจ้งว่า นายเทวิน เสียชีวิตแล้วที่ รพ.พุทธโสธร โดยศพนายเทวิน อยู่ในสภาพที่ฟกซ้ำ ร่างกายมีร่องรอยถูกทำร้ายอย่างรุนแรง
ต่อมาได้มีโทรศัพท์ติดต่อมา อ้างว่าเป็นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด จะขอเคลียร์เรื่องผู้เสียชีวิตไม่ให้ญาติเอาเรื่อง และจะปล่อยตัวนายอรรถพลออกมา ตนจึงออกอุบายบอกตกลง เนื่องจากกลัวว่า นายอรรถพล จะถูกซ้อมตายอีกคน เมื่อนายอรรถพล ได้รับการปล่อยตัว แล้วตนเห็นสภาพการถูกทำร้ายแล้ว จึงนำเรื่องเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าเหน้าที่ตำรวจที่ซ้อมหลานได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสีย ชีวิต
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมได้สอบถามไปยังต้นสังกัดและได้รับแจ้งว่าจับคนร้าย ตัวจริง ที่ยิงสายข่าวจนเสียชีวิตได้แล้ว โดยทั้ง 2 พี่น้อง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
จึงแจ้งให้เพื่อนๆำด้รับทราบ ว่า ได้มีการตรวจสอบและเร่งดำเนินการ สรุปเท็จจริง และผลของเหตุที่เกิดจนเสียชีวิตนี้ จะนำมาแจ้งเพื่อนไต่อไปครับ
หมายเหตุ ....... ใช้รุปเดิม ที่มีการแชร์กันในเฟส เพื่อให้ทราบว่าคดีเดียวกันครับ
เนื้อหาจาก กาย ........ ราชสีห์ จิตอาสา
ภายหลังทราบว่า นายเทวา ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ต่อมาได้มีชายฉกรรจ์ 2 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ ถืออาวุธปืนสั้นและปืนยาวคนละกระบอก มาเคาะประตูบ้านเรียกให้ตนและน้องชายขึ้นรถไปที่หน่วยทำการชุดปราบปรามยาเสพ ติดจังหวัดฉะเชิงเทรา และได้แยกตัวตนกับน้องชายไปอยู่คนละห้อง โดยได้พยายามสอบสวนหาผู้ใช้อาวุธปืนยิง นายเทวา แต่ตนไม่รู้เรื่อง จึงถูกซ้อมและใช้ไม้กระบองตีที่บริเวณหลังและที่ศีรษะจนเป็นรอยเขียวซ้ำและ สลบไป
ญาติของผู้บาดเจ็บเปิดเผยว่า หลังหลานชายทั้ง 2 คนถูกนำตัวไป ตนก็ได้ไปตามหาที่โรงพักเมืองฉะเชิงเทรา แต่ก็ไม่พบตัว ภายหลังทราบว่าทั้งคู่ถูกเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดควบคุมตัวไป กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 24 ส.ค. จึงได้รับแจ้งว่า นายเทวิน เสียชีวิตแล้วที่ รพ.พุทธโสธร โดยศพนายเทวิน อยู่ในสภาพที่ฟกซ้ำ ร่างกายมีร่องรอยถูกทำร้ายอย่างรุนแรง
ต่อมาได้มีโทรศัพท์ติดต่อมา อ้างว่าเป็นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด จะขอเคลียร์เรื่องผู้เสียชีวิตไม่ให้ญาติเอาเรื่อง และจะปล่อยตัวนายอรรถพลออกมา ตนจึงออกอุบายบอกตกลง เนื่องจากกลัวว่า นายอรรถพล จะถูกซ้อมตายอีกคน เมื่อนายอรรถพล ได้รับการปล่อยตัว แล้วตนเห็นสภาพการถูกทำร้ายแล้ว จึงนำเรื่องเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าเหน้าที่ตำรวจที่ซ้อมหลานได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสีย ชีวิต
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมได้สอบถามไปยังต้นสังกัดและได้รับแจ้งว่าจับคนร้าย ตัวจริง ที่ยิงสายข่าวจนเสียชีวิตได้แล้ว โดยทั้ง 2 พี่น้อง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
จึงแจ้งให้เพื่อนๆำด้รับทราบ ว่า ได้มีการตรวจสอบและเร่งดำเนินการ สรุปเท็จจริง และผลของเหตุที่เกิดจนเสียชีวิตนี้ จะนำมาแจ้งเพื่อนไต่อไปครับ
หมายเหตุ ....... ใช้รุปเดิม ที่มีการแชร์กันในเฟส เพื่อให้ทราบว่าคดีเดียวกันครับ
เนื้อหาจาก กาย ........ ราชสีห์ จิตอาสา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น