เรื่องราวสะท้อนความเสื่อมทรามของสังคมไทยและน่า สลดใจที่แม่ยอมมีเซ็กซ์กับลูกแท้ๆ เพียงเพื่อเงิน 5 พันบาท เป็นที่เปิดเผยขึ้นในการเสวนาของมูลนิธิกระจกเงา ที่อาคารเลิศปัญญา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ในหัวข้อ "คลิปหลุด คลิปแอบถ่าย...อาชญากรรมไม่ใช่สื่อบันเทิง"
โดย น.ส.กรกนก สำเนากลาง ผู้ประสานงานศูนย์เฝ้าระวังภัยเทคโนโลยี มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ที่เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับวีดิโอคลิปต่างๆ พบว่า ปี 2555 เป็นต้นมา มีผู้นำคลิปวีดิโอต่างๆ ไปลงในเว็บดังกล่าวถึง 3,446 คลิป ในจำนวนนี้ร้อยละ 59.5 ไม่ระบุชื่อเรื่องในการนำคลิปไปลง แต่จะใช้การตั้งชื่อเป็นสถานที่และพฤติกรรมในคลิปวีดิโอนั้น
เมื่อสำรวจถึงประเภทคลิปที่มีการโพสต์ไว้พบว่า ร้อยละ 62.8 จะไม่ระบุประเภท ร้อยละ 15.1 ระบุว่าเป็นคลิปหลุดและคลิปแอบถ่าย ร้อยละ 6.2 เมื่อสำรวจจำนวนคนเข้าไปดูตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 พบว่า มีคนเข้าไปดูสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2552 พบว่ามีคนเข้าไปดูสูงถึง 3,741,617 ราย
จากนั้นเป็นการเสวนาถึงแนวทางการป้องกันปัญหาคลิปหลุดคลิปแอบถ่าย โดย น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ. ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การเผยแพร่คลิปหลุดในปัจจุบันเป็นเพศพาณิชย์ไปแล้ว อยากให้ผู้ประกอบการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีจริยธรรม ไม่ส่งเสริมการเผยแพร่คลิปวีดิโอในลักษณะดังกล่าวด้วย เนื่องจากขณะนี้มีการแสวงหาผลประโยชน์ จากการถ่ายคลิปวีดิโอ โดยตนเคยได้รับข้อมูลจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า มี การว่าจ้างผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี ซึ่งมีลูกชาย 2 คน ให้มีการร่วมเพศกับลูกชาย แล้วบันทึกลงแผ่นซีดีออกขายตามตลาดมืด ผู้หญิงคนดังกล่าว และได้รับเงินค่าจ้าง 5,000 บาท
ขณะนี้ทราบว่า ปดส.ได้เก็บแผ่นซีดีนี้มาหมดแล้ว การแก้ปัญหาดังกล่าวให้หมดไป จะต้องมีการร่วมมือทุกภาคส่วน โดยได้เริ่มทำแล้วตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มีการตั้งคณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และมีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องสื่อปลอดภัยสร้างสรรค์ รวมทั้งทำยุทธศาสตร์ขจัดสื่อร้าย ขยายสื่อดี ตั้งกองทุนดำเนินการเพิ่มพื้นที่ดีลดพื้นที่เสี่ยง แต่แนวทางนี้จะสำเร็จได้ ต้องให้ภาคประชาสังคมช่วยเฝ้าระวังด้วย
น.ส.ลัดดา กล่าวด้วยว่า สำหรับคนที่ชอบถ่ายคลิปเก็บไว้ดูส่วนตัวแม้จะไม่ผิด แต่อยากให้ระวังไว้ด้วย เพราะการนำคลิปวีดิโอไปเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ แม้จะลบไปแล้ว แต่ความจริงข้อมูลยังอยู่ เพราะข้อมูลในคอมพิวเตอร์จะสามารถอยู่ได้นานหลายปี แม้จะลบไปจากเครื่องก็สามารถกู้ขึ้นมาได้ นอกเสียจากคอมพิวเตอร์จะจมน้ำแล้วพังทั้งระบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก
นสพ.ไทยรัฐ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
โลกใบนี้มันแปลกขึ้นทุกวัน 8-)
ตอบลบรสนิยม
ตอบลบ